B Connect Issue 12 B-Connect-12 | Page 21
THREE-CIRCLE MODEL
OF THE FAMILY BUSINESS SYSTEM
Ownership
ปัญหาของธุรกิจครอบครัวที่ถูกน�ำเสนอ
อย่างตรงไปตรงมาและด�ำรงอยู่จริง ท�ำให
ละครเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ทุกคน “อิน”
ได้ไม่ยาก ที่ส�ำคัญ ท�ำให้ธุรกิจครอบครัว
หรือ Family Business หลายๆ ครอบครัว
ตื่นตัวกันมากขึ้น เนื่องจากละครเรื่องนี้ได
สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ บาง
แง่มุมที่หลายๆ ธุรกิจครอบครัวมองข้ามไป
หรือก�ำลังเผชิญปัญหาเช่นเดียวกันอยู่แบบ
“แทงใจด�ำ”
จากการจัดงานสัมมนา “ถอดบทเรียน
ธุ ร กิ จ ครอบครัว จากละคร เลือดข้น คน
จาง” ซึ่งจัดโดย ศูนย์ศึกษาธุรกิจครอบครัว
มหาวิ ท ยาลั ย หอการค้ า ไทย ร่ ว มกั บ
ReedTradex และ FAMZ (แฟมซ์) โดยได
รับเกียรติจากแขกรับเชิญ ดร.นพดล ธรรม
วั ฒ นะ ประธานกรรมการ บริ ษั ท บี ที จ
คอปอเรชั่ น จ� ำ กั ด พร้ อ มด้ ว ย ผศ.ดร.
เอกชัย อภิศักดิ์กุล และดร.ภูษิต วงศ์หล่อ
สายชล ได้ร่วมถอดบทเรียนจากละครดัง
กล่าวและสะท้อนเรื่องราว ปัญหาความขัด
แย้งของธุรกิจครอบครัว
เนื่องจากกว่า 80% ของปัญหาความ
ขัดแย้งจากครอบครัวหรือธุรกิจมักจะเป็น
“จุ ด เริ่ ม ต้ นของจุด จบตระกูล” เมื่อความ
ต้องการของ “ธุรกิจ” กับ “ครอบครัว” คือ
ความท้ า ทายที่ ธุ ร กิ จ ครอบครั ว ต้ อ งเผชิ ญ
อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
ผศ.ดร.เอกชัย ได้ให้ค�ำแนะน�ำการรักษา
สมดุ ล นี้ ว ่ า “สมาชิ ก ครอบครั ว ต้ อ งเข้ า ใจ
บทบาทหน้าที่ของตัวเองเสียก่อน ทั้งนี้ จาก
ทฤษฎี The Three-Circle Model of
Family Business วงกลมสามวงที่อธิบาย
ถึงบทบาทการบริหารงาน การบริหารธุรกิจ
และการบริหารครอบครัว ซึ่งผู้ที่เป็นเจ้าของ
Non-family
Non-manager
Owners
Family
Owners
Non-family
Owner-
Employees
Family
Owner-
Employees
Family
Members
Family
Family
Employees
Non-family
Members
Business
TAGIURI AND DAVIS, 1982
หรือสมาชิกที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องเข้าใจบทบาทหน้าที่ทั้งสามวงนี้ให้ดีก่อน เพราะบางบทบาท
หน้าที่มีส่วนทับซ้อนกัน บางคนเป็นสมาชิกครอบครัวและเป็นทั้งเจ้าของ บางคนเป็นสมาชิก
ครอบครัวเป็นเจ้าของและเป็นทั้งผู้บริหารด้วย จากทฤษฎีนี้หากเราเข้าใจว่า เราอยู่ตรงพื้นท
ไหนของวงกลมแล้ว พื้นที่นั้นควรได้รับอะไร มีบทบาทหน้าที่อย่างไร จะท�ำให้การอยู่ร่วมกัน
ของสมาชิกครอบครัวและการบริหารงานราบรื่นไปด้วยดี แต่ถ้าสมาชิกเกิดสับสนในบทบาท
หน้าที่ก็จะมีปัญหาวนซ�้ำตลอดเวลา”
ขณะที่ ดร.นพดล ได้เปิดเผยแง่มุมจากประสบการณ์ตรงหลังคุณแม่เสียชีวิตไป 10 ปีว่า
“ ในทางทฤษฎีฟังดูแล้วง่าย แต่ที่จริงแล้ว คุณสามารถสวมบทบาทอย่างนี้ได้หรือไม่ หากลอง
เปรียบเทียบกับตัวละคร “ภัสสร” ที่ได้รับมรดกเป็นเงินสดจ�ำนวน 200 ล้านบาทแล้วต้องการ
ซื้อหุ้นโรงแรมเพื่อบริหารธุรกิจที่ตนเองได้ท�ำมาตั้งแต่วันแรกกับประเสริฐพี่ชายคนโตของ
ตระกูล แต่ถูกกลับปฏิเสธเพียงเพราะเธอ “แต่งออก” ตามธรรมเนียมมจีน ภัสสรจึงคิดว่าไม
ยุติธรรมส�ำหรับเธอ แต่หากภัสสรเข้าใจบทบาทหน้าที่ตัวเองว่าอยู่ตรงไหนของพื้นที่วงกลม
สามวงนี้ เธออาจไม่ต้องน้อยใจหรือทวงถามถึงความยุติธรรมจากมรดกที่ได้รับ”
ในส่วนของการแบ่งมรดกของธุรกิจครอบครัวนั้น ทั้งสามท่านได้ให้มุมมองว่า การที่จะ
ตัดสินว่า กรณีนั้นๆ มีความยุติธรรมหรือไม่นั้นย่อมขึ้นอยู่กับความพึงพอใจตามเหตุและผล
ของผู้ตัดสินใจ หากเราอยู่ในสถานะของผู้รับมรดกก็ย่อมต้องเข้าใจและยอมรับเหตุผลของผู้ท
มอบมรดกให้แก่เรา เพราะค�ำว่า “ความยุติธรรม” กับ “ความเท่าเทียม” คือค�ำคนละความ
หมาย” ปัญหาความขัดแย้งยังคงเป็นเรื่องธรรมชาติ และปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ หากม
สภาครอบครัวและสภาธุรกิจ เป็นกลไกส�ำคัญที่สามารถช่วยแก้ปัญหาและส่งต่อความยั่งยืน
ของตระกูลต่อไปได้
B-CONNECT MAGAZINE
19