B Connect Issue 12 B-Connect-12 | Page 15
บุ ญ ชั ย เกี ย รติ ธ นาวิ ท ย์ กรรมการ
ผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน
ธนชาต จ�ำกัด เปิดเผยถึงผลการด�ำเนินงาน
ว่า “ในปีนี้ บริษัทสามารถสร้างยอดขาย
กองทุนหุ้นไทยสุทธิอยู่เกือบ 2 หมื่นล้าน
ท�ำให้สัดส่วนสินทรัพย์กองทุนหุ้นของบริษัท
ปรับตัวจากเกือบ 4 หมื่นล้านในปีที่แล้วมา
เป็นกว่า 5 หมื่นล้านในปีนี้ คิดเป็น 25%
ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งส่วนหนึ่งมา
จากบริ ษั ท ได้เปิด ขายกองทุนหุ้นไทยแนว
ใหม่ T-SmartBeta ได้กว่า 5,000 ล้านบาท
เนื่ อ งจากเป็ น กองทุ น ที่ ค ่ อ นข้ า งมี ค วาม
เฉพาะตัว สามารถปรับกลยุทธ์การลงทุน
ได้ ทั้งในช่วงที่ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัว
ขึ้นและลง ส�ำหรับกองทุนที่ได้รับความนิยม
สูงสุดของบริษัทในปีนี้ คือ กองทุนหุ้นปันผล
อย่ า ง T-DIV และ T-DIV2 ที่ ย อดลงทุ น
สุทธิทั้ง 2 กองทุนอยู่ที่กว่า 1.3 หมื่นล้าน
(31 ต.ค. 61) เนื่ อ งจากเป็ น กองทุ น ท
สามารถจ่ายปันผลได้กองทุนละ 6 ครั้งแล้ว
นับแต่จัดตั้งกองทุนราวมีนาคม 2560 และ
คาดว่ า จะยั ง คงได้ รั บ ความนิ ย มในปี ห น้ า
เช่นกัน ส่วนเป้าหมายการออกกองทุนในป
หน้าคาดจะน�ำเสนอกองทุนหุ้นในรูปแบบ
ต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าต่อไป
เนื่องจากเชื่อว่า ในระยะยาวแล้วสินทรัพย
ประเภทหุ้นยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ด
กว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ ด้วย”
โชติช่วง ธีรขจรโชติ ผู้ช่วยกรรมการ
ผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์มหภาค คาดการณ
แนวโน้มการลงทุนในปีหน้า ว่า
“ปีหน้าเศรษฐกิจโลกยังสามารถขยาย
ตัวต่อเนื่องในปีหน้า แต่จะไม่แรงเหมือน
เดิม เนื่องจากแรงส่งจากมาตรการกระตุ้น
ต่ า งๆ เช่ น ธนาคารกลางยุ โ รปจะหยุ ด
มาตรการ QE (Quantitative Easing :
มาตรการผ่ อ นคลายเชิ ง ปริ ม าณ) ลดลง
ส่ ว นธนาคารกลางสหรั ฐ ก็ ก� ำ ลั ง ถอนเงิ น
ดอลล่ า ร์ ส หรั ฐ ออกจากตลาดผ่ า นการลด
ขนาดงบดุลที่เริ่มตั้งแต่ Q4/2017 โดยจะ
ลดลงถึ ง 1 ล้ า นล้ า นเหรี ย ญสหรั ฐ เมื่ อ ถึ ง
สิ้นปี 2019 อย่างไรก็ตาม ถือได้ว่าเศรษฐกิจ
สหรัฐฯในรอบปัจจุบันขยายตัวยาวนานที่สุด
นับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้น
มา และคาดว่าจะขยายตัวต่อไปได้ไม่ต�่ำกว่า
2 ปี จากนั้นก็จะถดถอย แต่คงไม่ได้รุนแรง
มากอย่างที่กังวลกัน เพียงแต่รอบของภาวะ
เศรษฐกิจถดถอยอาจไม่มากแต่ใช้ระยะเวลา
นานกว่าปกติพอสมควร
ส�ำหรับในระยะ 6 เดือนที่ผ่านมา ความ
กังวลต่อทิศทางการขยายตัวของเศรษฐกิจ
โลกในปั จ จุ บั น ท� ำ ให้ ต ลาดอยู ่ ใ น Mode
Risk-Off เงิ น ทุ น จึ ง ผั น ผวนสู ง ซึ่ ง คาดว่ า
ในปีหน้า ภาวะความผันผวนจะยังคงมา
จากปั จ จั ย ต่ า งประเทศเป็ น หลั ก ทั้ ง ด้ า น
เศรษฐกิ จ โลกที่ ค าดว่ า ขยายตั ว ช้ า ลง
ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับคู ค ่ า ้
โดยเฉพาะกับจีน นอกจากนั้น นโยบายการ
เงินในหลายประเทศตึงตัวขึ น ้ การแข็งค่าของ
เงินดอลลาร์สหรัฐ ความผันผวนของค่าเงิน และ
ประเด็ น การเมื อ งในสหรั ฐ ฯ ยู โ รโซนและ
กลุ่มโอเปกยังคงเป็น ประเด็น ที่ต้องจับตา
ต่อไป”
ส่ ว นในปี ห น้ า แนวโน้ ม การลงทุ น ใน
ตลาดต่ า งประเทศ ตลาดเกิ ด ใหม่ อ ย่ า ง
เอเชียน่าสนใจกว่าภูมิภาคอื่น เพราะในปีน
ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง แต่เศรษฐกิจและ
ก�ำไรของบริษัทยังขยายตัวได้ ท�ำให้ค่า P/E
อยู่ที่ 12 เท่าเท่านั้น ขณะที่ตลาดไทย การ
ลงทุ น ในตลาดหุ ้ น ไทยยั ง คงน่ า สนใจกว่ า
หุ้นต่างประเทศ เพราะความเสี่ยงมีแค่เรื่อง
การเมื อ งหลั ง การเลื อ กตั้ ง ซึ่ ง อาจมี ภ าวะ
ความผันผวนขึ้น/ลงบ้าง แต่เมื่อพิจารณา
ถึงผลก�ำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดท
ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง คาดว่า ดัชนีตลาดหุ้น
SET ในปีหน้าจะซื้อขายบน P/E ที่ประมาณ
15 – 16 เท่า หรือ ระหว่าง 1,750 – 1,850
จุด แม้ว่า P/E ตลาดหุ้นไทยอาจไม่ได้ต�่ำมาก
• บุญชัย เกียรติธนาวิทย์
กรรมการผู้จัดการ
เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน ที่ส�ำคัญ ปัจจัยเสี่ยง
ภายในประเทศมีน้อยกว่า ประกอบกับแรง
ขายจากนักลงทุนต่างชาติที่น่าจะน้อยกว่า
ในปีนี้ นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยที่ช่วยผลักดัน
ให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้จากค่าเงินบาท
ที่อ่อนลง เพราะเชื่อว่าในช่วง Q1/2019
ค่ า เงิ น บาทจะแกว่ ง ตั ว ระหว่ า ง 32.00 –
33.50 บาท/ดอลลาร์ ส หรั ฐ ท� ำ ให้ หุ ้ น ไทย
ในปีหน้ายังคงน่าสนใจ
โชติ ช ่ ว งกล่ า วว่ า “ส� ำ หรั บ การลงทุ น
ในตราสารหนี้ ค าดว่ า จะให้ ผ ลตอบแทน
ไม่ สู ง นั ก แต่ เ ชื่ อ ว่ า ตราสารหนี้ ไ ทยจะให
ผลตอบแทนที่ ดี ก ว่ า และมี ค วามเสี่ ย งต�่ ำ
กว่าตราสารหนี้ต่างประเทศ เพราะตลาด
ตราสารหนี้คาดว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ
ไทยจะค่ อ ยเป็ น ค่ อ ยไปตามหลั ง สหรั ฐ ฯ
อยู่มาก ส่วนการลงทุนในทองค�ำถือเป็นการ
ป้องกันความเสี่ยงจาก 1) ภาวะเศรษฐกิจ
โลกอาจชะลอตัวลงมากกว่าที่คิดกันไว้ในอีก
2-3 ปี 2) แนวโน้มของค่าเงินดอลลาร์ที่อาจ
อ่อนค่าในระยะต่อไปด้วย
ส ่ ว น ก า ร จั ด พ อ ร ์ ต ล ง ทุ น นั้ น ค ว ร
พิจารณาจากความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนสามารถ
รั บ ได้ โดยแนะน� ำ ให้ มี สั ด ส่ ว นการลงทุ น
ในหุ้น ไทยและตราสารหนี้ไทยสูงกว่า การ
ลงทุ น ในต่ า งประเทศ และมองการลงทุ น
ในระยะยาวมากกว่ า เพื่ อ โอกาสรั บ ผล
ตอบแทนที่ดีและกระจายความเสี่ยงได้อย่าง
เหมาะสมในอนาคต”
B-CONNECT MAGAZINE
13