ที่ส�ำคัญ คนจีนรู ้จักการหาช่องทางในการท�ำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ประเภทเทคโนโลยีที่มีจุดเริ่มต้นการผลิตจากฝรั่งก็ตาม แต่แรงขับที่ต้องการ แสวงหาโอกาสในการขายของให้ได้มากขึ ้น จึงมีการน�ำสินค้าที่ฝรั่งเริ่มต้นคิด มาพัฒนาต่อยอดให้มีความสามารถและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้มีเพิ่มขึ้น และผู ้ประกอบการจีนก็รู ้จักน�ำเทคโนโลยีมาช่วยในการแก้ไข ปัญหา จนกลายเป็นสินค้าหรือบริการใหม่ และเป็น Business Model ใหม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
วรมนเล่าให้ฟังว่าการที่จีนมีประชากรเป็นจ�ำนวนมาก ท�ำให้การ ต่อคิวต้องใช้เวลานาน ท�ำให้ปัญหากระทบมาถึงการให้บริการลูกค้าที่ท�ำได้ ไม่ทั่วถึง จีนก็มีการน�ำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดคิวระบบออนไลน์ ซึ่งท�ำให้ การจัดสรรคนที่เข้ามาใช้บริการมีความคล่องตัว ไม่ต้องหงุดหงิดกับการ มานั่งรอ
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นความสามารถในการน�ำเทคโนโลยีมาช่วย ในการแก้ไขปัญหาของคนจีนได้เป็นอย่างดี ซึ่งการรู ้จักน�ำเทคโนโลยีมา ประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจ�ำวันได้อย่างลงตัวเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่ธุรกิจ Startup ในจีนจึงเติบโตเหมือนกับดอกเห็ด และที่ส�ำคัญ เจ้าของ Startup ส่วนใหญ่ก็มักจะมีอายุน้อยๆ แต่ก็สามารถสร้างโอกาส ในการท�ำเงินได้สูงมาก จนท�ำให้จีนเป็นประเทศทีมี Startup ในกลุ ่ม Unicorn คือมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ มากที ่สุดในโลก ที่เกิดขึ้น เช่นนี้ได้ก็เพราะจีนมีการส่งเสริมนักลงทุนอิสระ มีสถาบันอบรมการสร้าง ผู ้ประกอบการในหลายๆ เมือง เช่น ปักกิ่ง เซียงไฮ้ เซินเจิ้น ฯลฯ ผู ้ประกอบการ พวกนี้ก็รู ้ว่าจะน�ำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุนให้มีประสิทธิภาพอย่างไร และจะน�ำเทคโนโลยีมาพัฒนาอย่างไรถึงจะเป็นสินค้าหรือบริการที่จะสร้าง รายได้ให้มีสูงขึ้น
นอกจากนี้ ผู ้ประกอบการจีนยังมีความสามารถในการประยุกต์ และ ดัดแปลงเทคโนโลยีที่รับมาจากฝรั่งให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม และวิถี ชีวิตความเป็นอยู ่ของคนจีนได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นความสามารถที่วรมนรู ้สึก ชื่นชม เช่น โวตี๋หั่วกัว ร้านสุกี้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทันสมัย ให้บริการรวดเร็ว และราคาถูก มีการลดต้นทุนโดยการตัดพ่อค้าคนกลาง มีการให้ผู ้ผลิตส่ง วัตถุดิบโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ท�ำให้ทั้งผักหรือเนื้อมีราคาพอๆ กับ ไปเดินซื้อของในตลาดสดเอง ซึ่งการบริหารต้นทุนด้วยวิธีเช่นนี้ท�ำให้วัตถุดิบ หลายอย่างถูกกว่าร้านหม้อไฟทั่วไปเกือบครึ่ง
นอกจากตัดพ่อค้าคนกลางแล้ว ก็ยังมีการลดการใช้พนักงานลงด้วย การให้ลูกค้าบริการตัวเอง โดยมีการน�ำเทคโนโลยีมาใช้ คือ แทนที่จะจ้าง พนักงานเสิร์ฟ ลูกค้าจะต้องเดินไปเลือกผักหรือเนื้อด้วยตัวเองและส่งให้ พนักงานเก็บเงินคิดราคา ทุกถาดจะมีชิป RFID ติดอยู ่ เวลาคิดเงินก็วางที่ เครื่องอ่าน เครื่องก็จะแจ้งราคาอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ร้านนี ้ยังคิด “ ค่าโต๊ะ ” ตาม “ ขนาดโต๊ะ ” และ “ ช่วงเวลา ” โดยโต๊ะเล็ก นั่ง 2-4 คน ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่มื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นจะคิดราคา อยู ่ที่ 25 บาทต่อ 15 นาที หรือชั่วโมงละ 100 บาท แต่ถ้าเป็นมื้อเที่ยงหรือ
มื้อเย็นจะคิดราคา 15 นาที 40 บาท หรือชั่วโมงละ 150 บาท ถ้าโต๊ะใหญ่ 6-8 คน สนนราคาอยู ่ที่ 15 นาทีละ 50 บาท หรือ 200 บาทต่อชั่วโมง แต่ถ้าในเวลาเร่งด่วนจะคิด 15 นาทีต่อ 75 บาท หรือ 300 บาทต่อชั่วโมง แต่ถ้ามาในช่วงเวลาที่คนไม่กินข้าว ราคาก็จะถูกลง
การคิดเงินก็จะคิดจากสองยอดคือ ยอดแรกเป็นค่าอาหาร และ ยอดที่สองคือ ค่าเวลาใช้โต๊ะ เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการก็จะได้รับบัตรเงินสด ในการซื้ออาหารและตอกบัตรนับเวลาการกินด้วย วรมนมองว่าเป็นการ น�ำเทคโนโลยีมาใช้ในการ disrupt ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาให้กับคนชั้นกลาง และคนชั้นล่างที่พบเจอกับปัญหาแบบนี้มานาน และเชื่อว่าจะเกิดธุรกิจ ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจ�ำวันเช่นนี้มากขึ้น
อย่างร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในจีน วรมนเล่าว่าจะตั้งอยู ่ในเมืองหลักๆ เช่น ปักกิ่ง เซียงไฮ้ กวางโจว ฯลฯ แต่เมืองอันดับสอง อันดับสามจะไม่มี ร้าน 7-11 เพราะต้นทุนการเปิด 7-11 จะสูงมาก และตอนนี้ก็ได้เกิดธุรกิจ ร้านสะดวกซื้อที่ไม่ใช้คนให้บริการ และมีการขายในรูปแบบแฟรนไชส์ แล้ว ท�ำให้ร้านสะดวกซื้อรูปแบบนี้ไปถึงเมืองเล็กๆ เพราะเป็นการใช้ระบบ เข้ามาควบคุม ซึ่งร้านสะดวกซื้อที่ว่าก็เป็นร้านขนาดใหญ่ แต่สามารถเข็น ไปได้ทุกที่ และมีการใช้เทคโนโลยีในการควบคุม ตั้งแต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็ต้องสแกน QR Code
วิธีคิดร้านสะดวกซื้อของจีนรูปแบบนี้ถือเป็นช่องว่างทางการตลาด ที่มีขนาดใหญ่ และเป็นวิธีคิดที่ต่างจากอเมริกา หรือญี่ปุ ่นที่มองว่าการมี ร้านสะดวกซื้อผุดขึ้นมากเท่าใดก็จะเป็นมาตรวัดความเจริญของเมืองได้ อย่างหนึ่ง
adopt จากสินค้าคนอื่น แต่ adapt ให้ก้าวหน้ากว่า
วรมนมองว่า แม้ทุกวันนี้ Business Model ของจีนจะยังคงใช้วิธี การก๊อปปี ้สินค้าอื่นอยู ่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะแม้แต่ สหรัฐอเมริกาก็เคยใช้วิธีการนี้มาก่อน แต่สิ่งที่น่าสนใจอยู ่ตรงที่หลังจากที่จีน ก๊อปปี ้แล้วก็จะพยายามท�ำให้ประสิทธิภาพการใช้งานดีขึ้น อย่างโปรแกรม แชท การที ่จีนบล็อกโซเชียลมีเดียจากโลกภายนอก ท�ำให้ต้องมีการพัฒนา โปรแกรม WeChat ขึ้น เพื่อให้คนทั้งประเทศใช้จนท�ำให้โปรแกรมนี้มีการ พัฒนาก้าวล�้ำไปกว่าโปรแกรมแชทที ่มีมาก่อนหน้า
“ คนจีนจะไม่หยุดแค่นั้น ยกตัวอย่างเช่น ฝรั่งมี WhatsApp เกาหลี มี Kakaotalk และประเทศไทยนิยมใช้ Line จีนก็มี WeChat ซึ่งผู ้ที่ท�ำแชท แบบนี้แรกๆ ที่เรารู ้จักกันคือ ICQ และต่อมาเป็น QQ ของเทนเซนต์ โดยมาก่อน MSN ที่เรารู ้จักกัน แต่เราไม่เคยใช้ QQ ซึ่งในปัจจุบันคือ WeChat นั่นเอง แต่ QQ ก็ยังมีอยู ่ ไทยเราเหมือนถูกปิดประตู เพราะจะรับ นวัตกรรมที่มาจากฝรั่ง ท�ำให้เราไม่รู ้เลยว่าประเทศจีนมีอะไร หรือท�ำอะไร เราจึงคิดว่าเมืองจีนนั้นก๊อปปี ้ตลอด แต่ก็ยอมรับว่าจีนยังมีการท�ำธุรกิจแบบ adopt and adapt อยู ่ แต่สิ่งที่เขา adapt นั้นมันมีความก้าวหน้ามากกว่า
28 B-CONNECT MAGAZINE
ที ส ่ ำ � คัญ คนจีนรู จ ้ ก ั การหาช่องทางในการท�ำธุรกิจ ไม่ว า ่ จะเป็นสินค้า
ประเภทเทคโนโลยีท ม ี่ จ ี ด ุ เริ ม ่ ต้นการผลิตจากฝรั ง ่ ก็ตาม แต่แรงขับที ต ่ อ ้ งการ
แสวงหาโอกาสในการขายของให้ได้มากขึ น ้ จึงมีการน�ำสินค้าที ฝ ่ รั ง ่ เริ ม ่ ต้นคิด
มาพัฒนาต่อยอดให้ม ค ี วามสามารถและตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ให้ม เ ี พิ ม ่ ขึ น ้ และผู ป ้ ระกอบการจีนก็ร จ ้ ู ก ั น�ำเทคโนโลยีมาช่วยในการแก้ไข
ปัญหา จนกลายเป็นสินค้าหรือบริการใหม่ และเป็น Business Model
ใหม่ได้อย่างไม่น า ่ เชื อ ่
วรมนเล่าให้ฟังว่าการที่จีนมีประชากรเป็นจ�ำนวนมาก ท�ำให้การ
ต่อคิวต้องใช้เวลานาน ท�ำให้ป ญ ั หากระทบมาถึงการให้บริการลูกค้าที ท ่ ำ � ได
ไม่ท ว ั่ ถึง จีนก็ม ก ี ารน�ำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดคิวระบบออนไลน์ ซึ ง ่ ท�ำให
การจัดสรรคนที เ ่ ข้ามาใช้บริการมีความคล่องตัว ไม่ต อ ้ งหงุดหงิดกับการ
มานั ง ่ รอ
สิ ง ่ เหล่านี ส ้ ะท้อนให้เห็นความสามารถในการน�ำเทคโนโลยีมาช่วย
ในการแก้ไขปัญหาของคนจีนได้เป็นอย่างดี ซึ ง ่ การรู จ ้ ก ั น�ำเทคโนโลยีมา
ประยุกต์ใช้เพื อ ่ แก้ป ญ
หาที เ ่ กิดขึ น ้ ในชีว ต ิ ประจ�ำวันได้อย่างลงตัวเช่นน
จึงไม่แปลกที ธ ่ ร ุ กิจ Startup ในจีนจึงเติบโตเหมือนกับดอกเห็ด และที ส ่ ำ � คัญ
เจ้าของ Startup ส่วนใหญ่ก ม ็ ก ั จะมีอายุน อ ้ ยๆ แต่ก ส ็ ามารถสร้างโอกาส
ในการท�ำเงินได้ส ง ู มาก จนท�ำให้จ น ี เป็นประเทศทีมี Startup ในกลุ ม ่
Unicorn คือมีม ล ู ค่าเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ มากที ส ่ ด ุ ในโลก ที เ ่ กิดขึ น ้
เช่นนี ไ ้ ด้ก เ ็ พราะจีนมีการส่งเสริมนักลงทุนอิสระ มีสถาบันอบรมการสร้าง
ผู ป ้ ระกอบการในหลายๆ เมือง เช่น ปักกิ ง ่ เซียงไฮ้ เซินเจิ น ้ ฯลฯ ผู ป ้ ระกอบการ
พวกนี ก ้ ร ็ ว ้ ู า ่ จะน�ำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุนให้ม ป ี ระสิทธิภาพอย่างไร
และจะน�ำเทคโนโลยีมาพัฒนาอย่างไรถึงจะเป็นสินค้าหรือบริการที จ ่ ะสร้าง
รายได้ให้ม ส ี ง ู ขึ น ้
นอกจากนี้ ผู ป ้ ระกอบการจีนยังมีความสามารถในการประยุกต์ และ
ดัดแปลงเทคโนโลยีท ร ี่ บ ั มาจากฝรั ง ่ ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม และวิถี
ชีว ต ิ ความเป็นอยู ข ่ องคนจีนได้อย่างลงตัว ซึ ง ่ เป็นความสามารถที ว ่ รมนรู ส ้ ก ึ
ชื น ่ ชม เช่น โวตี ห ๋ ว ั่ กัว ร้านสุก ท ี้ ข ี่ น ึ้ ชื อ ่ เรื อ ่ งความทันสมัย ให้บริการรวดเร็ว
และราคาถูก มีการลดต้นทุนโดยการตัดพ่อค้าคนกลาง มีการให้ผ ผ ้ ู ลิตส่ง
วัตถุด บ ิ โดยไม่ต อ ้ งผ่านพ่อค้าคนกลาง ท�ำให้ท ง ั้ ผักหรือเนื อ ้ มีราคาพอๆ กับ
ไ� �เดินซื อ ้ ของในตลาดสดเอง ซึ ง ่ การบริหารต้นทุนด้วยวิธ เ ี ช่นนี ท ้ ำ � ให้ว ต ั ถุด บ ิ
หลายอย่างถูกกว่าร้านหม้อไฟทั ว ่ ไปเกือบครึ ง ่
นอกจากตัดพ่อค้าคนกลางแล้ว ก็ย ง ั มีการลดการใช้พนักงานลงด้วย
การให้ล ก ู ค้าบริการตัวเอง โดยมีการน�ำเทคโนโลยีมาใช้ คือ แทนที จ ่ ะจ้าง
พนักงานเสิร ฟ ์ ลูกค้าจะต้องเดินไปเลือกผักหรือเนื อ ้ ด้วยตัวเองและส่งให
พนักงานเก็บเงินคิดราคา ทุกถาดจะมีช ป ิ RFID ติดอยู่ เวลาคิดเงินก็วางท
เครื อ ่ งอ่าน เครื อ ่ งก็จะแจ้งราคาอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ร้านนี ย ้ ง ั คิด “ค่าโต๊ะ” ตาม “ขนาดโต๊ะ” และ “ช่วงเวลา”
โดยโต๊ะเล็ก นั ง ่ 2-4 คน ในช่วงเวลาที ไ ่ ม่ใช่ม อ ื้ เที ย ่ งหรือมื อ ้ เย็นจะคิดราคา
อยู ท ่ ี่ 25 บาทต่อ 15 นาที หรือชั ว ่ โมงละ 100 บาท แต่ถ า ้ เป็นมื อ ้ เที ย ่ งหรือ
28
B-CONNECT MAGAZINE
มื อ ้ เย็นจะคิดราคา 15 นาที 40 บาท หรือชั ว ่ โมงละ 150 บาท ถ้าโต๊ะใหญ
6-8 คน สนนราคาอยู ท ่ ี่ 15 นาทีละ 50 บาท หรือ 200 บาทต่อชั ว ่ โมง
แต่ถ า ้ ในเวลาเร่งด่วนจะคิด 15 นาทีต อ ่ 75 บาท หรือ 300 บาทต่อชั ว ่ โมง
แต่ถ า ้ มาในช่วงเวลาที ค ่ นไม่ก น ิ ข้าว ราคาก็จะถูกลง
การคิดเงินก็จะคิดจากสองยอดคือ ยอดแรกเป็นค่าอาหาร และ
ยอดที ส ่ องคือ ค่าเวลาใช้โต๊ะ เมื อ ่ ลูกค้าเข้ามาใช้บริการก็จะได้ร บ ั บัตรเงินสด
ในการซื อ ้ อาหารและตอกบัตรนับเวลาการกินด้วย วรมนมองว่าเป็นการ
น�ำเทคโนโลยีมาใช้ในการ disrupt ซึ ง ่ เป็นการแก้ป ญ ั หาให้ก บ ั คนชั น ้ กลาง
และคนชั น ้ ล่างที พ ่ บเจอกับปัญหาแบบนี ม ้ านาน และเชื อ ่ ว่าจะเกิดธุรกิจ
ที เ ่ ข้ามาช่วยแก้ป ญ ั หาในชีว ต ิ ประจ�ำวันเช่นนี ม ้ ากขึ น ้
อย่างร้านสะดวกซื อ ้ 7-11 ในจีน วรมนเล่าว่าจะตั ง ้ อยู ใ ่ นเมืองหลักๆ
เช่น ปักกิ ง ่ เซียงไฮ้ กวางโจว ฯลฯ แต่เมืองอันดับสอง อันดับสามจะไม่ม
ร้าน 7-11 เพราะต้นทุนการเปิด 7-11 จะสูงมาก และตอนนี ก ้ ไ ็ ด้เกิดธุรกิจ
ร้านสะดวกซื อ ้ ที ไ ่ ม่ใช้คนให้บริการ และมีการขายในรูปแบบแฟรนไชส
แล้ว ท�ำให้ร า ้ นสะดวกซื อ ้ รูปแบบนี ไ ้ ปถึงเมืองเล็กๆ เพราะเป็นการใช้ระบบ
เข้ามาควบคุม ซึ ง ่ ร้านสะดวกซื อ ้ ที ว ่ า ่ ก็เป็นร้านขนาดใหญ่ แต่สามารถเข็น
ไปได้ท ก ุ ที่ และมีการใช้เทคโนโลยีในการควบคุม ตั ง ้ แต่เมื อ ่ เปิดประตูเข้าไป
ก็ต อ ้ งสแกน QR Code
วิธ ค ี ด ิ ร้านสะดวกซื อ ้ ของจีนรูปแบบนี ถ ้ อ ื เป็นช่องว่างทางการตลาด
ที ม ่ ข ี นาดใหญ่ และเป็นวิธ ค ี ด ิ ที ต ่ า ่ งจากอเมริกา หรือญี ป ่ น ่ ุ ที ม ่ องว่าการม
ร้านสะดวกซื อ ้ ผุดขึ น ้ มากเท่าใดก็จะเป็นมาตรวัดความเจริญของเมืองได
อย่างหนึ ง ่
adopt จากสินค้าคนอื น
แต่ adapt ให้ก า ้ วหน้ากว่า
วรมนมองว่า แม้ท ก ุ วันนี้ Business Model ของจีนจะยังคงใช้ว ธ ิ
การก๊อปปี ส ้ น ิ ค้าอื น ่ อยู่ แต่ก ไ ็ ม่ใช่เรื อ ่ งแปลกแต่อย่างใด เพราะแม้แต
สหรัฐอเมริกาก็เคยใช้ว ธ ิ ก ี ารนี ม ้ าก่อน แต่ส ง ิ่ ที น ่ า ่ สนใจอยู ต ่ รงที ห ่ ลังจากที จ ่ น ี
ก๊อปปี แ ้ ล้วก็จะพยายามท�ำให้ประสิทธิภาพการใช้งานดีข น ึ้ อย่างโปรแกรม
แชท การที จ ่ น ี บล็อกโซเชียลมีเดียจากโลกภายนอก ท�ำให้ต อ ้ งมีการพัฒนา
โปรแกรม WeChat ขึ น ้ เพื อ ่ ให้คนทั ง ้ ประเทศใช้ จนท�ำให้โปรแกรมนี ม ้ ก ี าร
พัฒนาก้าวล� ำ ้ ไปกว่าโปรแกรมแชทที ม ่ ม ี าก่อนหน้า
“คนจีนจะไม่หยุดแค่น น ั้ ยกตัวอย่างเช่น ฝรั ง ่ มี WhatsApp เกาหล
มี Kakaotalk และประเทศไทยนิยมใช้ Line จีนก็มี WeChat ซึ ง ่ ผู ท ้ ท ี่ ำ � แชท
แบบนี แ ้ รกๆ ที เ ่ รารู จ ้ ก ั กันคือ ICQ และต่อมาเป็น QQ ของเทนเซนต
โดยมาก่อน MSN ที เ ่ รารู จ ้ ก ั กัน แต่เราไม่เคยใช้ QQ ซึ ง ่ ในปัจจุบ น ั คือ
WeChat นั น ่ เอง แต่ QQ ก็ย ง ั มีอยู่ ไทยเราเหมือนถูกปิดประตู เพราะจะรับ
นวัตกรรมที ม ่ าจากฝรั ง ่ ท�ำให้เราไม่ร เ ้ ู ลยว่าประเทศจีนมีอะไร หรือท�ำอะไร
เราจึงคิดว่าเมืองจีนนั น ้ ก๊อปปี ต ้ ลอด แต่ก ย ็ อมรับว่าจีนยังมีการท�ำธุรกิจแบบ
adopt and adapt อยู่ แต่ส ง ิ่ ที เ ่ ขา adapt นั น ้ มันมีความก้าวหน้ามากกว่า