B Connect Issue 09 E-Mag-B-Connect-09 | Page 30

ที่ส�ำคัญ คนจีนรู ้จักการหาช่องทางในการท�ำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ประเภทเทคโนโลยีที่มีจุดเริ่มต้นการผลิตจากฝรั่งก็ตาม แต่แรงขับที่ต้องการ แสวงหาโอกาสในการขายของให้ได้มากขึ ้น จึงมีการน�ำสินค้าที่ฝรั่งเริ่มต้นคิด มาพัฒนาต่อยอดให้มีความสามารถและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ให้มีเพิ่มขึ้น และผู ้ประกอบการจีนก็รู ้จักน�ำเทคโนโลยีมาช่วยในการแก้ไข ปัญหา จนกลายเป็นสินค้าหรือบริการใหม่ และเป็น Business Model ใหม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
วรมนเล่าให้ฟังว่าการที่จีนมีประชากรเป็นจ�ำนวนมาก ท�ำให้การ ต่อคิวต้องใช้เวลานาน ท�ำให้ปัญหากระทบมาถึงการให้บริการลูกค้าที่ท�ำได้ ไม่ทั่วถึง จีนก็มีการน�ำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดคิวระบบออนไลน์ ซึ่งท�ำให้ การจัดสรรคนที่เข้ามาใช้บริการมีความคล่องตัว ไม่ต้องหงุดหงิดกับการ มานั่งรอ
สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นความสามารถในการน�ำเทคโนโลยีมาช่วย ในการแก้ไขปัญหาของคนจีนได้เป็นอย่างดี ซึ่งการรู ้จักน�ำเทคโนโลยีมา ประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจ�ำวันได้อย่างลงตัวเช่นนี้ จึงไม่แปลกที่ธุรกิจ Startup ในจีนจึงเติบโตเหมือนกับดอกเห็ด และที่ส�ำคัญ เจ้าของ Startup ส่วนใหญ่ก็มักจะมีอายุน้อยๆ แต่ก็สามารถสร้างโอกาส ในการท�ำเงินได้สูงมาก จนท�ำให้จีนเป็นประเทศทีมี Startup ในกลุ ่ม Unicorn คือมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ มากที ่สุดในโลก ที่เกิดขึ้น เช่นนี้ได้ก็เพราะจีนมีการส่งเสริมนักลงทุนอิสระ มีสถาบันอบรมการสร้าง ผู ้ประกอบการในหลายๆ เมือง เช่น ปักกิ่ง เซียงไฮ้ เซินเจิ้น ฯลฯ ผู ้ประกอบการ พวกนี้ก็รู ้ว่าจะน�ำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดต้นทุนให้มีประสิทธิภาพอย่างไร และจะน�ำเทคโนโลยีมาพัฒนาอย่างไรถึงจะเป็นสินค้าหรือบริการที่จะสร้าง รายได้ให้มีสูงขึ้น
นอกจากนี้ ผู ้ประกอบการจีนยังมีความสามารถในการประยุกต์ และ ดัดแปลงเทคโนโลยีที่รับมาจากฝรั่งให้สอดคล้องกับวัฒนธรรม และวิถี ชีวิตความเป็นอยู ่ของคนจีนได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นความสามารถที่วรมนรู ้สึก ชื่นชม เช่น โวตี๋หั่วกัว ร้านสุกี้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทันสมัย ให้บริการรวดเร็ว และราคาถูก มีการลดต้นทุนโดยการตัดพ่อค้าคนกลาง มีการให้ผู ้ผลิตส่ง วัตถุดิบโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ท�ำให้ทั้งผักหรือเนื้อมีราคาพอๆ กับ ไปเดินซื้อของในตลาดสดเอง ซึ่งการบริหารต้นทุนด้วยวิธีเช่นนี้ท�ำให้วัตถุดิบ หลายอย่างถูกกว่าร้านหม้อไฟทั่วไปเกือบครึ่ง
นอกจากตัดพ่อค้าคนกลางแล้ว ก็ยังมีการลดการใช้พนักงานลงด้วย การให้ลูกค้าบริการตัวเอง โดยมีการน�ำเทคโนโลยีมาใช้ คือ แทนที่จะจ้าง พนักงานเสิร์ฟ ลูกค้าจะต้องเดินไปเลือกผักหรือเนื้อด้วยตัวเองและส่งให้ พนักงานเก็บเงินคิดราคา ทุกถาดจะมีชิป RFID ติดอยู ่ เวลาคิดเงินก็วางที่ เครื่องอ่าน เครื่องก็จะแจ้งราคาอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ร้านนี ้ยังคิด “ ค่าโต๊ะ ” ตาม “ ขนาดโต๊ะ ” และ “ ช่วงเวลา ” โดยโต๊ะเล็ก นั่ง 2-4 คน ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่มื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นจะคิดราคา อยู ่ที่ 25 บาทต่อ 15 นาที หรือชั่วโมงละ 100 บาท แต่ถ้าเป็นมื้อเที่ยงหรือ
มื้อเย็นจะคิดราคา 15 นาที 40 บาท หรือชั่วโมงละ 150 บาท ถ้าโต๊ะใหญ่ 6-8 คน สนนราคาอยู ่ที่ 15 นาทีละ 50 บาท หรือ 200 บาทต่อชั่วโมง แต่ถ้าในเวลาเร่งด่วนจะคิด 15 นาทีต่อ 75 บาท หรือ 300 บาทต่อชั่วโมง แต่ถ้ามาในช่วงเวลาที่คนไม่กินข้าว ราคาก็จะถูกลง
การคิดเงินก็จะคิดจากสองยอดคือ ยอดแรกเป็นค่าอาหาร และ ยอดที่สองคือ ค่าเวลาใช้โต๊ะ เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการก็จะได้รับบัตรเงินสด ในการซื้ออาหารและตอกบัตรนับเวลาการกินด้วย วรมนมองว่าเป็นการ น�ำเทคโนโลยีมาใช้ในการ disrupt ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาให้กับคนชั้นกลาง และคนชั้นล่างที่พบเจอกับปัญหาแบบนี้มานาน และเชื่อว่าจะเกิดธุรกิจ ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจ�ำวันเช่นนี้มากขึ้น
อย่างร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในจีน วรมนเล่าว่าจะตั้งอยู ่ในเมืองหลักๆ เช่น ปักกิ่ง เซียงไฮ้ กวางโจว ฯลฯ แต่เมืองอันดับสอง อันดับสามจะไม่มี ร้าน 7-11 เพราะต้นทุนการเปิด 7-11 จะสูงมาก และตอนนี้ก็ได้เกิดธุรกิจ ร้านสะดวกซื้อที่ไม่ใช้คนให้บริการ และมีการขายในรูปแบบแฟรนไชส์ แล้ว ท�ำให้ร้านสะดวกซื้อรูปแบบนี้ไปถึงเมืองเล็กๆ เพราะเป็นการใช้ระบบ เข้ามาควบคุม ซึ่งร้านสะดวกซื้อที่ว่าก็เป็นร้านขนาดใหญ่ แต่สามารถเข็น ไปได้ทุกที่ และมีการใช้เทคโนโลยีในการควบคุม ตั้งแต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็ต้องสแกน QR Code
วิธีคิดร้านสะดวกซื้อของจีนรูปแบบนี้ถือเป็นช่องว่างทางการตลาด ที่มีขนาดใหญ่ และเป็นวิธีคิดที่ต่างจากอเมริกา หรือญี่ปุ ่นที่มองว่าการมี ร้านสะดวกซื้อผุดขึ้นมากเท่าใดก็จะเป็นมาตรวัดความเจริญของเมืองได้ อย่างหนึ่ง
adopt จากสินค้าคนอื่น แต่ adapt ให้ก้าวหน้ากว่า
วรมนมองว่า แม้ทุกวันนี้ Business Model ของจีนจะยังคงใช้วิธี การก๊อปปี ้สินค้าอื่นอยู ่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เพราะแม้แต่ สหรัฐอเมริกาก็เคยใช้วิธีการนี้มาก่อน แต่สิ่งที่น่าสนใจอยู ่ตรงที่หลังจากที่จีน ก๊อปปี ้แล้วก็จะพยายามท�ำให้ประสิทธิภาพการใช้งานดีขึ้น อย่างโปรแกรม แชท การที ่จีนบล็อกโซเชียลมีเดียจากโลกภายนอก ท�ำให้ต้องมีการพัฒนา โปรแกรม WeChat ขึ้น เพื่อให้คนทั้งประเทศใช้จนท�ำให้โปรแกรมนี้มีการ พัฒนาก้าวล�้ำไปกว่าโปรแกรมแชทที ่มีมาก่อนหน้า
“ คนจีนจะไม่หยุดแค่นั้น ยกตัวอย่างเช่น ฝรั่งมี WhatsApp เกาหลี มี Kakaotalk และประเทศไทยนิยมใช้ Line จีนก็มี WeChat ซึ่งผู ้ที่ท�ำแชท แบบนี้แรกๆ ที่เรารู ้จักกันคือ ICQ และต่อมาเป็น QQ ของเทนเซนต์ โดยมาก่อน MSN ที่เรารู ้จักกัน แต่เราไม่เคยใช้ QQ ซึ่งในปัจจุบันคือ WeChat นั่นเอง แต่ QQ ก็ยังมีอยู ่ ไทยเราเหมือนถูกปิดประตู เพราะจะรับ นวัตกรรมที่มาจากฝรั่ง ท�ำให้เราไม่รู ้เลยว่าประเทศจีนมีอะไร หรือท�ำอะไร เราจึงคิดว่าเมืองจีนนั้นก๊อปปี ้ตลอด แต่ก็ยอมรับว่าจีนยังมีการท�ำธุรกิจแบบ adopt and adapt อยู ่ แต่สิ่งที่เขา adapt นั้นมันมีความก้าวหน้ามากกว่า
28 B-CONNECT MAGAZINE